สายน้ำหยดประเภทชดเชยแรงดัน ขนาดความหนาปานกลางและหนามาก ออกแบบเพื่อให้การหยดของน้ำมีความสม่ำเสมอเท่ากันทุกจุดของสาย ทั้งบนพื้นที่ราบและพื้นที่สูงต่ำไม่เท่ากัน สำหรับ DripNet PC™ รุ่นความหนาปานกลางจะเหมาะกับพืชไร่ และรุ่นความหนามากจะเหมาะกับสวนผลไม้
เพิ่มผลผลิตปาล์มน้ำมัน และลดต้นทุนการใช้น้ำ ปุ๋ย และแรงงาน ด้วยระบบน้ำหยด
ในปัจจุบัน เกษตรกรและเจ้าของสวนปาล์มน้ำมัน กำลังเผชิญกับปัญหาเรื่องภาวะขาดแคลนน้ำ และความไม่แน่นอนของปริมาณน้ำฝน ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลผลิตและรายได้
ระบบน้ำหยด (Drip Irrigation) คือทางออกที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง ที่ช่วยให้ต้นปาล์มได้รับน้ำและธาตุอาหารอย่างต่อเนื่อง แม่นยำ สม่ำเสมอถึงราก จัดการแปลงได้ง่าย และที่สำคัญยังใช้น้ำน้อยลง เพิ่มโอกาสในการบริหารจัดการน้ำตลอดทั้งปีได้ดีขึ้น ทำให้ช่วยเพิ่มผลผลิตเฉลี่ยทั้งปีได้อย่างเห็นผล
ทำไมควรใช้ระบบน้ำหยดกับปาล์มน้ำมัน?
- เพิ่มผลผลิตได้มากกว่า 30%
ส่งน้ำและปุ๋ยตรงถึงราก ช่วยให้ต้นปาล์มเติบโตดี แข็งแรง และให้ผลผลิตมากขึ้นอย่างเห็นผล - ประหยัดน้ำได้ถึง 30%-50%
ระบบน้ำหยดช่วยลดการใช้น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยลดการระเหย การไหลทิ้ง และการให้น้ำเกินความจำเป็น เมื่อเทียบกับวิธีเดิม สามารถประหยัดน้ำได้ถึง 50% แต่ยังคงให้ผลผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นได้ - ลดต้นทุนการจัดการในแปลง
ระบบให้น้ำและปุ๋ยอัตโนมัติช่วยลดการใช้แรงงาน ลดการสูญเสียปุ๋ย และประหยัดพลังงาน ช่วยให้การดำเนินงานในสวนมี ต้นทุนที่คุ้มค่าและรายได้ที่มั่นคงยิ่งขึ้น - ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพและสม่ำเสมอ
ระบบควบคุมและจัดการแปลงที่แม่นยำช่วยให้การใช้น้ำและปุ๋ยมีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่งผลให้ต้นปาล์มเจริญเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ และให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูงทั่วทั้งแปลง - ตอบสนองความต้องของตลาดได้รวดเร็วขึ้น
การให้น้ำอย่างแม่นยำในช่วงที่สำคัญ เช่น ระยะออกดอกและติดผล จะช่วยให้ปาล์มพัฒนาเร็วขึ้น เก็บเกี่ยวได้ไว และ ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดปาล์มน้ำมัน ได้ทันเวลา - ให้ธาตุอาหารได้แม่นยำตรงจุด
การให้ปุ๋ยผ่านระบบน้ำหยด (Fertigation) ช่วยให้ต้นพืชได้รับธาตุอาหารที่จำเป็น เช่น ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม และจุลธาตุ ในปริมาณที่เหมาะสม และในเวลาที่พืชต้องการ อย่างแม่นยำ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
เรื่องราวจากความสำเร็จ
ผลลัพธ์จากใช้ระบบน้ำหยดช่วยเพิ่มผลผลิตกว่า 30%
โซลูชันที่แนะนำสำหรับปาล์มน้ำมัน
หัวน้ำหยดแบบชดเชยแรงดันและป้องกันการรั่วซึม ออกแบบมาเพื่อให้การไหลและการหยดของน้ำมีความสม่ำเสมอทุกจุด อีกทั้งยังมีระบบป้องกันการอุดตันอีกด้วย
ลดความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อม เพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพสูงสุด ด้วยการทำเกษตรแบบดิจิตอล (Digital farming)
